ประวัติความเป็นมาต้มข่าไก่
ต้มข่าไก่ เป็นอาหารที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน และมีการเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวไทย ต้มข่าไก่นั้นมีต้นกำเนิดจากคนสมัยก่อนและมีแนวคิดในการทำอาหารรวมถึงการใช้สมุนไพรและเครื่องเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างรสชาติให้หอมนุ่มหวานอร่อย และเน้นความสดชื่นเป็นส่วนสำคัญในการปรุงอาหาร เมื่อนำไก่สดมาต้มในน้ำซุปที่ใส่สมุนไพรต่าง ๆ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และเห็ดหอม ให้ได้รสชาติที่หอมอร่อย และเปรี้ยวหวานกลมกล่อม ที่พร้อมจะบรรจุความอบอุ่นและสีสันของวัฒนธรรมไทยได้อย่างดีพร้อมรับประทาน
เสน่ห์ของต้มข่าไก่
ต้มข่าไก่ เป็นเมนูอาหารที่มีความอร่อยแบบไทยๆ และเต็มไปด้วยรสชาติที่เข้ากันแบบลงตัว ด้วยการผสมผสานรสชาติของข่าสดๆ กับกลิ่นหอมของใบมะกรูด และความเปรี้ยวจากน้ำมะนาว ทำให้ต้มข่าไก่เป็นอาหารที่อร่อยและเป็นที่นิยมกัน ต้มข่าไก่นั้นมีเสน่ห์มาจากการผสมผสานระหว่างรสชาติและวัตถุดิบที่นำมาปรุงในต้มข่าไก่ ข่าที่มีกลิ่นหอมเข้มข้น น้ำมะนาวที่มีความเปรี้ยวสดชื่น และเครื่องเทศอื่นๆ ที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับรสชาติของซุป จึงเป็นต้มข่าไก่ที่แสนอร่อยและลงตัวนั้นเอง
วัตถุดิบในการทำต้มข่าไก่
สะโพกไก่ 400 กรัม
เห็ดฟาง 200 กรัม
หัวกะทิ 300 มิลลิลิตร
หางกะทิ 500 มิลลิลิตร
ข่าอ่อนหั่นแว่นบาง ๆ 5-6 แว่น
ตะไคร้หั่นแฉลบ 3 ต้น
ใบมะกรูด 5-6 ใบ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
พริกแดง-เขียว 10 กรัม
มะนาว 1 ลูก
เกลือป่น ½ ช้อนชา
แนะนำในการเลือกซื้อวัตถุดิบที่สด
วิธีการเลือกไก่ในการนำต้มข่าไก่ แนะนำเป็นอกไก่ หรือสะโพกไก่ เพราะเนื้อค่อนข้างเยอะ หรือจะเป็นสะโพกไก่ก็ได้ เพราะว่าเนื้อสะโพกไก่จะนุ่มกว่าอกไก่นั่นเอง
วิธีทำต้มข่าไก่
1.นำเห็ดนางฟ้า มาหั่นให้เรียบร้อย พักไว้ จากนั้นนำข่า ตะไคร้มาหั่นเป็นแว่นบางๆ หอมแดงและพริกแดงจินดา นำมาบุบให้พอแตก หั่นผักชีฝรั่ง ผักชี เป็นท่อนๆ และนำสะโพกไก่มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พักไว้
2.นำพริกแห้งลงไปคั่วในกระทะ ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน จนพริกหอมดี
3.เทน้ำเปล่าลงไปในหม้อสำหรับต้ม รอจนน้ำเดือด ใส่มะขามเปียกลงไป ตามด้วยตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบมะกรูด รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง
4.ใส่เนื้อไก่ลงไป ยังไม่ต้องคน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ใช้ไฟกลาง
5.จากนั้นใส่เห็ดนางฟ้า ต้มต่ออีกประมาณ 2-3 นาที ตามด้วยหัวกระทิ ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลปี๊ป น้ำปลา ต้มต่ออีกประมาณ 2-3 นาที จนน้ำตาลละลายดี
6.พอชิมรสชาติได้ที่แล้ว ให้เร่งไฟขึ้นมา เติมหัวกระทิลงไปอีกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน ใส่ใบมะกรูด พริกแดงจินดา พริกทอด ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย ปิดเตา
7.ปิดท้ายด้วยน้ำมะนาว เป็นอันเสร็จ พร้อมเสิร์ฟ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : foodpros.info